คำถาม-คำตอบ HIV APCOcap เชื้อHIVหมดจากร่างกายได้หรือไม่ โรคติดเชื้อฉวยโอกาส เพิ่มCD4 ได้อย่างไร

รีวิวผู้ใช้จริง

 

 

นวัตกรรม APCOcap เหมาะกับใคร?

  •   เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่ม CD4  เพื่อหยุดการเกิดโรคฉวยโอกาส
  •    เหมาะกับการติดเชื้อใหม่ที่ต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  •    ช่วยลดผลข้างเคียงของยาต้าน  ทำให้มีสุขภาพดีขึ้น ลดปัญหาป่วยบ่อย ทำให้ผิวดีเหมือคนทั่วไป
  •    ผู้ที่มีความเสื่ยงหรือคิดว่าตัวเองติดเชื้อ HIV แต่ยังไม่ไปตรวจ
  •    ผู้ที่เพิ่งจะได้รับเชื้อ HIV แต่ยังไม่ได้รับยาต้านไวรัส HIV
  •    ผู้ที่ติดเชื้อ HIV ที่ได้รับยาต้านไวรัสแล้ว
  •    ผู้ที่ได้รับผลข้างเคียง จากยาต้านไวรัส และมีโรคแทรกซ้อนต่างๆ
  •    ผู้ที่มีค่า CD4 ต่ำกว่า 200 Cells / Cu.mm

 

ผลิตภัณฑ์APCOcap รับประทานอย่างไร ? 

 

วิธีกินlivcapsule:apco

  • วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์/APCO
  •    4  แคปซูลต่อวัน  เช้า 2 เย็น 2
  •     6  แคปซูลต่อวัน เช้า 2 กลางวัน 2 เย็น 2  หรือ เช้า 3 เย็น3
  •    9  แคปซูลต่อวัน เช้า 3 กลางวัน 3 เย็น 3
  •     ควรรับประทานช่วงท้องว่าง คือ ก่อนอาหาร 30 นาที หรือ หลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง หรือ ก่อนนอน 

 

นวัตกรรม APCO จะทำให้เชื้อ HIV หมดจากร่างกายได้หรือไม่ ?

  •   Th17 เป็น Stem cell ที่ไม่เสื่อมสลายง่าย และเพิ่มจำนวนขึ้นเอง  จึงเพิ่มตลอดเวลา  ยิ่งเมื่อมีการใช้ Capsule ต่อเนื่อง Th17 จึงยิ่งเพิ่มจำนวนเร็วขึ้น
  •   เชื้อ HIV ถ้าเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเจาะเข้าไปใน CD4  ทุกเซลล์แล้วทำลายเซลล์นั้น TH17 คือ CD4 ที่ไวรัสเจาะเข้าไปมากที่สุด แต่นวัตกรรม APCO กระตุ้น Th17 เพิ่มขึ้นหลายเท่า เพียง 4 capsules/วัน กระตุ้น Th17 เพิ่มขึ้น 500% ในวันที่ 15  (จากผลการทดสอบเชิงคลินิคของศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ ม.เชียงใหม่
  •   Th17 เพิ่มอานุภาพของ Killer T cell (เซลล์ T พิฆาต) ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดการเซลล์ที่ติดเชื้อ HIV เชื้อ HIV จึงลดลงอย่างต่อเนื่อง จำนวน CD4  จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  •   Th17 ทำให้เกิด Memory T cell ซึ่งมีความจำในการกำจัดเชื้อ HIV ได้  จึงสามารถจัดการกับเชื้อ HIV ได้ตลอดไปเมื่อพบเชื้อ HIV อีก  จึงเปรียบเสมือนเป็นวัคซีนที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อนั่นเอง
  •   สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สรุปได้ HIV รักษาให้หายไม่ได้ เพราะยาต้านเชื้อ HIV เข้าไปจัดการเชื้อ HIV ใน CD4 ไม่ได้

แต่ Killer T Cell จะเข้าไปกำจัดเชื้อ HIV ใน CD4  ได้  โดยการเกาะติดกับ CD4 ที่ติดเชื้อนั้น  แล้วเจาะรูด้วยสาร perforin เพื่อส่งสาร granzyme เข้าไปเพื่อย่อยสลายเซลล์  CD4 รวมทั้งเชื้อ HIV ที่มีอยุ่ในเซลล์ เชื้อ HIV ในเซลล์จึงถูกทำลายจนหมดได้ 

 

โรคติดเชื้อฉวยโอกาสอะไรที่พบบ่อยในผู้ติดเชื้อ HIV ?

โรคเอดส์ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากต้องเสียชีวิต  แต่กับเป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอ  โดยการเข้าไปลดจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4  จนร่างกายของเราไม่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา

เมื่อร่างกายของเราไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาได้แล้ว  จะทำให้เกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาส  ซึ่งเป็นต้นเหตุที่แท้จริงที่คร่าชีวิตผู้ติดเชื้อ HIV เป็นจำนวนมาก

4 โรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่พบได้บ่อย คือ

  1. เชื้อราในช่องปาก
  2. เยี่อหุ้มสมองอักเสบ
  3. โรคปอดอักเสบ
  4. โรคมะเร็ง

ควรรีบดูแลอาการอย่างรวดเร็ว  ถ้าช้าร่างกายของเราก็จะยิ่งรับเชื้อโรคเข้ามาอีก  จนต้องทนทุกข์กับอาการแทรกซ้อนจนสิ้นความหวังในการใช้ชีวิตต่อไป

**  การดูแลร่างกายผู้ติดเชื้อ HIV ให้ห่างไกลจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสได้นั้น จำเป็นต้องเพิ่ม CD4 และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ T พิฆาต ให้จัดการกับเชื้อ HIV ซึ่งในปัจจุบันสามารถทำได้แล้ว  โดยการใช้พืชกินได้อย่าง มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่งและบัวบก  ผลงานวิจัย คณะนักวิจัย Operation bim ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย

 

"ภูมิคุ้มกันบำบัด" ดีกว่ายาต้านเชื้อ HIV อย่างไร ?

ยาต้านเชื้อ HIV(เอชไอวี) เป็นยาที่ได้รับความนิยมมาก แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือผู้ที่ติดเชื้อ HIV ยาต้านจะช่วยในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของ HIV แต่ยาต้านไม่ได้ทำให้เชื้อHIVลดลง

ยาต้านเชื้อ HIV มีผลข้างเคียงต่อร่างกายเมื่อรับประทานเป็นประจำ  เช่น ทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ เหนื่อย และนอนไม่หลับ เป็นต้น เมื่อใช้ยาต้านไวรัสนานๆ จะมีผลกับผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือ ผู้ที่มิดเชื้อ HIV  ทำให้มีปัญหากระดูก ตับ และไต

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM ได้ค้นพบสาร GM-1 ในมังคุด และได้ใช้เวลาในการค้นคว้าวิจัยมังคุดมานานกว่า 42 ปี จนค้นพบว่า สารสกัดในมังคุดเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพ  ด้วยหลักการของ  "ภูมิคุ้มกันบำบัด"

การดูแลสุขภาพด้วยหลักการ "ภูมิคุ้มกันบำบัด"  เป็นการเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวด้วยกระบวนการธรรมชาติ  จึงเป็นการกระตุ้น CD4 Cells หรือเม็ดเลือดขาวภูมิคคุ้มกันในร่างกาย  ซึ่งประกอบด้วย Killer T Cells , NK Cells และ Macrophage ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งตัว Killer T Cells จะไปฆ่าเชื้อไวรัส HIV ที่เกาะอยู่ในเซลล์เม็ดเลือดขาว  โดยสามารถเลือกทำลาย เฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติหรือมีเชื้อ HIV อยู่เท่านั้น

ดั้งนั้น การใช้ "ภูมิคุ้มกันบำบัด" จึงถือว่าเป็นกระบวนการดูแลสุขภาพเพื่อปรับสมดุลในการทำงานของระบบภุมิคุ้มกันได้อย่างปลอดภัยต่อร่างกาย ปราศจากการใช้สารเคมี

 

 Killer T Cells คืออะไร?

Kill T Cell (เม็ดเลือดขาวทีพิฆาต)  คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการกำจัดเซล์เม็ดเลือดขาวชนิดอื่นๆ ที่ติดเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ที่มีอยู่แล้ว  เพียงแต่ว่าในร่างกายของผู้ติดเชื้อ HIV (เอชไอวี) นั้น Killer T Cells จะทำงานได้ไม่เพียงพอในกรณีที่ผู้ติดเชื้อที่ร่างกายอ่อนแอ และเชื้อเพิ่มตัวเองอย่างลวดเร็ว เป็นจำนวนมาก ทำให้มีกำลังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อร้ายได้ หลักการนี้หากเรากระตุ้นร่างกายให้สามารถผลิตเม็ดเลือดขาวชนิด Kill T Cells นี้ออกมาให้เพียงพอต่อการกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อ HIV ร่างกายก็จะสามารถต่อสู้กับเขื้อร้ายนี้ได้ในที่สุด

 

ค่า CD4 ขึ้นๆ ลงๆ  ควรรับประทาน APCOCAP อย่างไร ?

  ควรรับประทาน 4-6 แคปซูล/วัน  ควรออกกำลังกาย และ งดอาหารหวาน

 

ผู้ป่วยโรคเอดส์ สามารถกับมาใช้ชีวิตได้ปกติหรือไม่?

หลายคนเข้าใจว่าเมื่อได้รับเชื้อ HIV  หรือ เป็นโรคเอสด์แล้วจะไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ เพราะผู้ที่เป็นโรคเอดส์ หรือ ติดเชื้อ เอชไอวี จะมีร่างกายที่อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ  ด้วยโรคแทรกซ้อน และติดเชื้อฉวยโอกาส ภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง หรือเสื่อมลง 

ปัจจุบัน  ผู้ป่วยโรคเอดส์ และ ผู้ติดเชื้อ HIV สามารถกับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปได้ ถ้าหาก

สามารถสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้กับมาเป็นปกติ โดยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ HIV ในร่างกาย

สามารถสร้างระดับภูมิต้านทานของร่างกาย หรือ ระดับเม็ดเลือดขาวให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ คือมีระดับค่า CD4 Cells 500-1500 เซลล์ ต่อเลือด 1 ลบ.มม.

ซึ่งในการสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย  ให้อยู่ในระดับปกติเพื่อดูแลร่างกายของผู้ป่วยโรคเอดส์ และผู้ติดเชื้อ HIV คือการใช้หลักการ "ภูมิคุ้มกันบำบัด"  ด้วยสารสกัดจาก GM-1 ในมังคุดและพืชกินได้ อีก 4 อย่าง เมื่อผู้ป่วยโรคเอดส์ และ ผู้ติดเชื้อ HIV นำหลักการ "ภูมิคุ้มกันบำบัด" มาดูแล จะมีผลดังนี้

ค่า CD4 Cells หรือเม็ดเลือดขาวในร่างกายเพิ่มขึ้น  มีผลให้ยับยั้งการขยายตัวของเชื้อ HIV

ปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล  ป้องกันโรคแทรกซ้อน และ การติดเชื้อฉวยโอกาส

"ภูมิคุ้มกันบำบัด" คือทางเลือกใหม่จากธรรมชาติที่ประสบผลสำเร็จอย่างสูง  ที่ได้ดูแลผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติกว่า  1000 รายแล้วทั่วประเทศ 

มิติใหม่ แห่งการดูแลสุขภาพด้วย "ภูมิคุ้มกันบำบัด" หรือ BIM Treapy

 

การดื้อยาต้านไวรัสHIV (เอชไอวี) คืออะไร?

  • การดื้อยาต้านไวรัสHIV(เอชไอวี) คือ การที่ยาต้านที่ใช้อยู่ไม่สามารถควบคุมเชื้อเอชไอวีในร่างกายไม่ให้ก๊อปปี้เพิ่มได้แล้ว กรณีแบบนี้มักจะเกิดจาการกินยาต้านไม่ตรงเวลา
  • หรือการใช้ยาต้านไวัรัสเอสไอวีต่อเนื่องสม่ำเสมอ 6 เดือน แต่ปริมาณของ HIV viral load ยังมีมากกว่า 1,000 ตัว/มิลลิลิตร หมายถึงการรักษาไม่เป็นผล และอาจมีภาวะดื้อยาร่วมด้วย  การตรวจเลือดแพทย์จะทราบได้ว่าผู้ป่วยมีภาวะดื้ยาและต้องปรับสูตรยาหรือไม่
  • ด้วยเหตุนี้ จึงเริ่มมีคำถามว่าการใช้ยาต้านไวรัสไปเรื่อยๆ จะช่วยในเรื่องรักษาหรือทำให้CD4 เพิ่มขึ้นได้ไหม รวมถึงยาต้านมีผลข้างเคียงอะไรและมีอะไรบ้างที่จะช่วยเพิ่มCD4  ให้มากขึ้นได้
  • สนับสนุนโดย #APCOcap  #นวัตกรรมAPCO #เพิ่มCD4ลดผลข้างเคียงของยาต้านไวรัสHIV

 

นวัตกรรมAPCOcap  ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อย่างไร?

  • เพิ่ม CD4   Th17
  • กำจัดเชื้อ HIV  (ลดHIV)
  • ใช้ร่วมกับยาต้านไวรัส
  • ลดผลข้างเคียงยาต้านไวรัส
  • ลดโอกาสติดโรคฉวยโอกาส
  • ทำให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ
  • น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • ผิวพรรณดูสดใสดีขึ้น
  • ช่วยให้ผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้ายรอดชีวิต
  • ทานต่อเนื่องปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง
  • ทำให้ HIV หมดฤทธิ์ (เสมือนหาย)

 

 

ผู้ที่ติดเชื้อHIV/เอชไอวี ยังไมใช่ผู้ป่วย AIDS / เอดส์?

  • ติดเชื้อ HIV ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ยังไม่เรียกว่าเป็นโรคเอดส์ ทางการแพทย์จะเรียกระยะที่ 3 ของการติดเชื้อ HIV ว่าเป็นโรคเอดส์
  • HIV ติดเชื้อแล้ว CD4 ยังสูงอยู่  ยังไม่มีโอกาสเกิดเชื้อฉวยโอกาส
  • เชื้อ HIV ไม่ได้ทำให้เราเสีียชีวิต เพียงแต่ทำลายCD4  เมื่อ CD4ลดลง เชื้ออื่นก็เข้ามาทำลายเราง่าย เพราะภูมิคุ้มกันเราลดลงไป ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

? รับประทานยาต้านพร้อมกับนวัตกรรมAPCO ได้หรือไม่ มีผลอย่างไร

? ต้องการหยุดยาต้านต้องมีค่า CD4เท่าไหร

? ท้องได้ตรวจพบHIV  เพิ่งทานยา เด็กจะคิดเขื้อHIV หรือไม่

 


? ผู้ป่วยที่เกล็ดเลือดต่ำ นวัตกรรมงานวิจัย ช่วยได้อย่างไร  นวัตกรรมapco  apcocap

? ติดเชื้อHIV 8 ปี ทานยาต้านไวรัสทุกวัน  ทานนวัตกรรมงานวิจัยอยู่  CD4 466  ร่างกายแข็งแรงดีไม่มีโรคแทรกซ้อน หลังจากนี้ หลังจากนี้ CD4 เพิ่มขึ้นหรือไม่

? กินยาต้านอยํ กินยาปอดอักเสบ กินยากันเชื้อรา เป็นตับอักเสบB ไขมันพอกตับ ควรใช้นวัตกรรมงานวิจัยอย่างไร

? ติดเชื้อมา 25 ปี ไม่เคยรับยาต้าน ใช้นวัตกรรมงานวิจัยมาแล้ว 8 เดือน อยากทราบว่าทานโปตีนได้ไหม

 

 

 

โทร 062 882 9695    ADD Line ID : @apcocenter

 

 

ประสบการณ์ผู้ใช้ นวัตกรรมAPCO

CD4 คืออะไร

กำจัดเชื้อ HIV ด้วย เซลล์ T พิฆาต

เอดส์อยู่ในความสงบ

 

งานวิจัยAPCOcap นักวิจัย operation bim เกี่ยวกับติดHIV (โรคเอดส์)

Visitors: 155,406