ผู้ป่วยมะเร็งควรต้องเลี่ยงปฏิบัติ และ เลี่ยงอาหารที่มะเร็งชอบ มะเร็ง
			ชอบ		ไม่ชอบ
1			อาหารรสหวาน (น้ำตาล) น้ำมะเร้าว *(มะเร็งเต้านม)		อาหารรสเปรี้ยว
2			อาหารที่ปรุงแต่งด้วยวิธีนึ่ง ย่าง และทอด		อาหารที่ปรุงด้วยวิธีต้ม นึ่ง ลวก และ เตาอบ
3			อาหารที่ผ่านการแปรรูป และใส่สารกันบูด		อาหารสดสะอาด  ปรุงสุกใหม่ๆ
4			เนื้อสัตว์ใหญ่ เนื้อแดง เช่น วัว หมู และสัตว์ปีก		ปลา ธัญพืช และผลไม้ที่ไม่หวาน
5			ข้าวขาว ขนมปัง แป้ง น้ำตาล เส้นก๋วยเตี๋ยว เบเกอรี่ และ ไอศครีม		ข้าวกล้อง และ ธัญพืช
6			ผลิตภัณฑ์จากสัตว์		ผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืช
7			คาร์บอนไดออกไซด์ บุหรี สารเสพติด		ออกซิเจน (ควรออกกำลังกาย)
8			ไม่ควรอยู่ในห้องปิดทึบอับ  (ห้องที่มืด)		แสงแดดช่วงเช้าและเย็น (วิตามินดี)
9			อาหารที่ทำให้สภาพร่างกายเผ็นกรด เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม สุรา เบียร์ เกลือ ผงชูรส ของหมักดอง		อาหารที่ทำให้สภาพร่างกายเป็นต่าง เช่น ผักสด และผลไม้ที่ไม่หวาน
10			อาหารที่มีไขมันสูง		ผักสด และ ผลไม้ที่ไม่หวาน
11			ปัญหาจิดใจ อารมณ์โกรธ เครียด วิตกกังวล ซืมเศร้า		ทำจิดใจให้แจ่มใส อารมณ์ดี สงบ ไม่เคียด สวดมนต์ นั่งสมาธิ
	*น้ำมะพร้าวมีสารที่คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งเ่ต้านมและมะเร็งรังไข่
คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
♦		ให้งดเนื้อสตว์ทุกชนิด  ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของสัตว์  เช่น นม เนย น้ำต้มซุป หรือ ซุปไก่สกัด เป็นต้น  เนื่องจากมีหลักฐานว่าโปรตีนจากสัตว์ ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็ว
♦		ให้ลดเค็มจาก เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว เพื่อลดปริมาณโซเดียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็วและควบคุมไม่ได้
♦		การดูแลสภาพจิต  สำคัญมากเพราะจะมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยโดยเฉพาะความเครียด ความวิตกกังวล หรือความคาดหวัง จะทำให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้นและจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง เป็นผลให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็ว  โดยแนะนำให้เลิกเครียดและเลิกกังวล ปล่อยวางทุกอย่าง ทำจิตใจให้ดีและสงบ ปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดและมีวินัย
♦		ญาติพี่น้องและคนใกล้ชิด จะมีบทบาทอย่างมาก ในการให้กำลังใจและไม่เพิ่มความเครียดหรือความวิตกกังวลให้ผุ้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้น  จะทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจและเข้มแข็งที่จะต่อสู้กับมะเร็งได้

ป้องกันมะเร็งด้วยเซลล์ T พิฆาต  โดยนวัตกรรม  APCO

การป้องกันมะเร็ง  ในปัจจุบัน  ยังไม่มีวิธีที่ชัดเจนและแน่นอน   แต่ที่พอช่วยได้อยู่บ้างก็คือการเลือกรับประทานผักผลไม้ ที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ ข้อมูลวิชาการบอกว่า การกินผักผลไม้เพื่อให้ได้ประโยชน์

ในการป้องกันโรคร้ายอย่างมะเร็ง  ด้วยวิธีเลือกกินเพียงชนิดเดียว  ต้องกินในปริมาณที่เยอะมาก เช่น หากต้องการกินมังคุดเพื่อจะได้สารอาหารที่มีประโยชน์จากมังคุดจริง  ต้องกินวันละ 5 กิโลกรัม  ไม่รวมเปลือก ที่สำคัญเหลือกมังคุดมีสารแทนนินสูงมาก  จึงไม่ควรรับประทาน

แม้ว่าการเกิดมะเร็งเป็นเรื่องคาดการณ์ได้ยาก  แต่สำหรับผู้ที่มีโอกาสเกิดเนื้อร้ายมากกว่าคนอื่นๆ เนื่องจากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็ง หรือ การใช้ชีวิตประจำวันที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง  สามารถตรวจหาความเสี่ยงตรงนี้ได้ตามขั้นตอนทางการแพทย์  ซึ่งปัจจุบัน  ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก  ด้วยเหตุนี้แคปซูล APCO จึงถูกพัฒนาสูตรขึ้นมา  เพื่อลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ในราคาที่เข้าถึงได้

สำหรับการป้องกันมะเร็งตามการทำงานของ แคปซูล APCO เป็นการใช้สารสกัดธรรมชาติ 5 ชนิด มารวมกันในสัดส่วนที่เหมาะสม  สามารถกระตุ้นการทำงานของ Killer T cell เม็ดเลือดขาวที่เก่งที่สุดมีหน้าที่ป้องกันและกำจัดเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ  เหมาะกับ ผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยต้องการป้องกันภูมิแพ้ที่อาจเกิดจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว  ผุ้ที่มีญาติสายตรงป่วยเป็นมะเร็ง ผู้ที่ได้รับความเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง  ผู้ที่เริ่มีอาการมะเร็งเบี้ยงต้น  ผู้ที่อยากป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็ง  สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำและเลือกรับประทานอาหารทีดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว  การใช้แคปซูล APCO ร่วมด้วยจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงยิ่งขึ้น   นวัตกรรมAPCO

วิธีการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง  "ผู้ป่วยมะเร็ง"

วิธีการดุแลตนเอง เมื่อเป็นผู้ป่วยมะเร็ง เช่น การเลือกทานอาหาร การดื่มน้ำ การนอน การออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำได้ในชีวิตประจำวันได้อยู่แล้ว แต่เรามักจะละเลย และไม่ใส่ใจเท่าที่ควร เช่น อาหารแบบไหนดีกับสุขภาพ อาหารแบบไหนส่งผลเสียกับสุขภาพ  ถึงแม้จะรู้ว่าการทานอาหารทอด หวาน มัน เค็ม รสจัด จะเสี่ยงกับการเกิดโรคต่างๆ ที่จะตามมา  แต่เราก็ยังจะทานต่อเพราะยึดติดในรสชาติของอาหาร ผลสุดท้ายเกิดเป็นผลเสียต่อร่างกาย ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายทำวานได้ไม่ดี ส่งผลต่ออวัยวะทุกส่วนของร่างกาย

สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง การดูแลตนเองที่สำคัญที่สุดเลย คือ การเลือกทานอาหาร ต้องระวังเป็นพิเศษ  เนื่องจากในร่างกายมีเซลล์มะเร็งอยู่ การทานอาหารจึงต้องเลือกทานอาหารที่ไม่เป็นอาหารของมะเร็งด้วย  ไม่ไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งตับ ไต โดยอาหารที่ควรหลึกเลี่ยง เช่น น้ำตาล เนื้ำสด ของหมดักดอง เป็นต้น

หลีกเลี่ยงฟฤติกรรมความเสี่ยงเพื่อสุขภาพที่ดี ฉบับผู้ป่วยมะเร็ง

1. พฤติกรรมการกิน
2. การใช้สมองทำงานหนัก
3. การออกกำลังกาย

การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และดูแลสุขภาพจิตให้ดีอยู่เสมอเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการรักษาตนเองให้ห่างไกลขากโรคมะเร็งได้  ดังนั้น การเลือกวิธีการรักษาโรคมะเร็ง  ผู้ป่วยควรเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม  และส่งผลเสียต่อร่างกายตนเองให้น้อยที่สุด  ในปัจจุบันการรักษามะเร็งมีหลากหลายวิธีด้วยกัน เช่น การผ่าตัด การทำเคมีบำบัด รังสีบำบัด ภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับผลข้างเคียงน้อยที่สุด หรือแทบจะไม่พบในผู้ป่วยมะเร็งเลย อย่างการรักษาด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัดนั้นเป็นวิธีการรักษาที่เพิ่งได้รับการค้นพงได้ไม่นาน  แต่ได้รับการทดลองแล้วพบว่ามีประสิทธิภาพในการจัดการมะเร็งได้อย่างแน่นอน